การแกะสลักผักและผลไม้
ศิลปะการแกะสลัผักผลไม้ เป็นศิลปะที่มีมาแต่โบราณคือเป็นมรดกอันล่ำค่าที่ควรแก่การอนุรักษ์มิให้สูญหายไป การแกะสลักผักผลไม้ใช้เพียงมีดแกะสลักเพียงเล่มเดียว สามารถแกะสลักได้หลากหลายรูปแบบตามจิตนาการของผู้แกะ
ความสำคัญและคุณค่าของงานแกะสลักผักและผลไม้
งานแกะสลักผักและผลไม้มี่ความสำคัญและคุณค่าต่อไปนี้
1. การใช้ในชีวิตประจำวัน การปอกผักและผลไม้ หรือการแกะสลักแบบง่ายๆ ช่วยทำให้อาหารน่ารับประทานยิ่งขึ้น และสะดวกในการรับประทาน เช่น การคว้านเงาะ การคว้านลำใย
2. ใช้ในโอกาสพิเศษ การแกะสลักผักและผลไม้ นอกจากการบุญประเพณีเลี้ยงพระงานเลี้ยงต่างๆ การต้อนรับแขก ยังแสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติและให้ความสำคัญกับแขกและยังเพื่อเป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย
3.การประกอบอาชีพ การแกะสลักสามารถนำไปสร้างอาชีพได้ดีแก่ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ยังเป็นที่ต้องการของโรงแรง ภัตตาคาร ตลอดจนร้านอาหาร และยังสามารถเปิดสอนการแกะสลัดผักผลไม้กับบุคคลที่ชาวต่างชาติที่สนใจศึกษาการแกะสลักผักผลไม้
4. การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย การแกะสลักผักผลไม้ เป็นการแสดงถึงความพิถีพิถันความละเอียดอ่อนความประณีตความอดทนในการสร้างสรรค์ผลงานอันวิจิตงดงามซึ่งควรที่เยาวชนของไทยควรเก็บรักษาไว้เพื่อสืบทอดต่อไป
5. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จากอดีตจนถถึงปัจจุบันการแกะสลักผักและผลไม้ได้มีการพัฒนาลวดลายวัสดุ ที่แปลกใหม่ในการแกะ รวมถึงนิคใหม่ๆ ซึ่งดูได้จากการประกวดแข่งขันงานแกะสลักผักและผลไม้ต่างๆ เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่และความคิดสร้างสรรค์นอกจากนี้ยังเป็นการอนุรักษ์งานแกะสลักที่สำคัญยังเป็นอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย
ตอนเด็กๆเพื่อนเคยเรียนการแกะสลักผลไม้รึเปล่าคะ
การแกะสลักผักและผลไม้ เป็นการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทยเลยทีเดียว
ซึ่งเดิมทีเป็นวิชาการขั้นสูงของกุลสตรีในรั้วในวัง ในการประดับตกแต่งอาหารและผลไม้ให้ดูสวยงามน่ารับประทาน
ทำให้เกิดเป็นศิลปวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การรักษาให้ลูกหลานของเราได้เห็นเป็น อย่างมาก
ยิ่งสุขใจได้มีโอกาสไปเห็นมากับตาค่ะ ว่าจากผลไม้ธรรมดา ๆ สามารถเนรมิตกลายมาเป็นรูปดอกไม้
รูปสัตว์หรือว่ารูปเรือสุพรรณหงส์ได้ สุดยอดไปเลยค่ะ!
ผักผลไม้ที่นิยมนำมาแกะสลักนะคะ จะต้องมีเนื้อที่ไม่แข็งและไม่นิ่มมากจนเกินไป
และจะต้องมีพื้นที่ในการใช้แกะสลักได้พอสมควร จึงจะสวยงามและวิจิตรมากเป็นพิเศษ
เช่น แตงโม ฟักทอง เผือก มันเทศ หรือมะละกอ
และอีกเรื่องที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก คือ การแกะสลักผักและผลไม้เป็นตัวสัตว์ในแต่ละชนิดนั้น
มีความจำเป็นในการเลือกชนิดของผักและผลไม้ให้เหมาะสม เช่น การใช้มะละกอแกะสลักเป็นตัวปลา
เพราะมีรูปทรงเรียวยาวเหมือนตัวปลา แล้วก็ควรเลือกมะละกอพันธุ์โกโก้
เพราะมีช่องว่างภายในผลกว้าง ความแน่นของเนื้อน้อยกว่าพันธุ์แขกดำ ที่เหมาะสำหรับนำมาแกะสลักเป็นดอกไม้ต่าง
ๆ เพราะพันธุ์นี้มีเนื้อแน่นและช่องว่างภายในแคบ เป็นต้น เห็นไหมล่ะคะว่าคนไทยโบราณมีความประณีตและละเอียดมากแค่ไหน
ถึงได้ผลงานศิลปะที่สวยงามขนาดนี้ได้
สุขใจเห็นทีว่าจะขอตัวลองไปฝึกแกะสลักกับเค้าบ้างนะคะ
จะได้เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยของเราไว้อีกทางหนึ่งด้วย การแกะสลักนั้นนอกจากจะมีประเภทพวกผักผลไม้แล้วยังมีงานไม้
งานปูนปั้น ที่ใช้ศิลปะการแกะสลักเพื่อการตกแต่งเช่นกัน ไว้ถ้าสุขใจมีโอกาสจะไปหาข้อมูลมาให้เพื่อนได้รู้กันด้วยค่ะ
แล้วพบกันใหม่ค่ะ ^^